sookjai.club เพื่อนรู้ใจในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณ
"ขาดทุนของฉันคือกำไรของแผ่นดิน" การแสดงโขน ตอน กุมภกรรณทดน้ำ 5 พฤศจิกายน ถึง 5 ธันวาคม ราคาบัตรเริ่มต้นเพียง 600 บาท ภูเก็ตเฮ ! Travel & Leisure แจกรางวัลแหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา(เหมืองแม่เมาะ) รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย 2023 เชียงใหม่บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 8 เริ่มแล้ววันนี้ มาให้ไว 30 มิ.ย. - 9 ก.ค. 66 นี้นะ ททท.จัดอีก อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส เปิดจักรวาลสายบุญ เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566 TEP X OIIO ASIA TECHLAND 2023 ชวนสัมผัสชีวิตในโลกอนาคต ที่สยามพารากอน 25-28 พฤษภาคมนี้ วิจิตร 5 ภาค นครศรีธรรมราช ภายใต้แนวคิด ศิลป์ศรัทธา มาหานครฯ 20-28 พฤษภาคมนี้ OTOP UTTARADIT FESTIVAL อุตรดิตถ์สุดฟิน ชิมทุเรียนหลงลับแล หลินลับแล ที่ซีคอนแสควร์งานนี้ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เชิญร่วมเสนอผลงานสื่อสร้างสรรค์ รางวัลคุณธรรมอวอร์ด 2565 ททท. โคราช ชวนโหวตแหล่งท่องเที่ยวบ้านปรางค์ เป็น Unseen new chapters 2566
เที่ยวอยุธยาเมืองอินเตอร์ สถานีการค้าฮอลันดา เยี่ยมหมู่บ้านญี่ปุ่น ชมหมู่บ้านโปรตุเกส โดย Sookjai วันหยุด (sookjai.club)

ท่องเที่ยว
อ่านแล้ว 1130 คน
พระนครศรีอยุธยา
อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา
Wed, 02 Aug 2023 09:04:42
ปลอดภัยสำหรับเด็ก
เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

คำค้นหา : เที่ยวอยุธยา, พม่าเผาเมือง, บ้านฮอลันดา, หมู่บ้านญี่ปุ่น, หมู่บ้านโปรตุเกส, แม่น้ำเจ้าพระยา, เนเธอร์แลนด์, ดัตช์, ฮอลแลนด์, วีโอซี, พระนเรศวร, พระเอกาทศรถ, พระเจ้าปราสาททอง, มัทฉะ, ชาเขียว, พระมหาธรรมราชา, ยามาดะ นางามาซะ, ออกญาเสนาภิมุข, นครศรีธรรมราช, เจ้ากรมอาสาญี่ปุ่น, ออกญาวิชชาเยนทร์, ท้าวทองกีบม้า, สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2, พระไชยราชาธิราช, โบสถ์นักบุญเปรโต, คณะโดมินิกัน, โบสถ์ซางตาครูซ, ชุมชนกุฎีจีน, ขนมฝรั่งกุฎีจีน, โบสถ์กาลหว่าร์,

'เที่ยวอยุธยาเมืองอินเตอร์ กราบสถานีการค้าฮอลันดา เยี่ยมหมู่บ้านญี่ปุ่น ไปหมู่บ้านโปรตุเกส ราชอาณาจักรใหญ่ในอดีต 417 ปีแห่งการสู้รบและการค้า มีสายสัมพันธ์โยงใยผู้คนหลากชาติหลายภาษา'

เที่ยวอยุธยาเมืองอินเตอร์ กับ Sookjai วันหยุด โดย สวัสดี ออนไลน์ สำนักพิมพ์ ราชอาณาจักรใหญ่ในอดีต 417 ปีแห่งการสู้รบและการค้า มีสายสัมพันธ์โยงใยผู้คนหลากชาติหลายภาษา แม้จะเป็นอดีตไปแล้วเมื่อถูกพม่าเผาทำลาย แต่ยังเหลือร่องรอยให้คนรุ่นหลังได้เดินทางศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะร่องรอยชุมชนชาวต่างชาติที่มีอยู่มากมายในกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นชุมชนสถานีการค้าฮอลันดา, หมู่บ้านญี่ปุ่น หรือหมู่บ้านโปรตุเกส ที่ Sookjai วันหยุด จะพาเดินทางท่องเที่ยว อย่างเข้าอกเข้าใจถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชมต่างชาติในกรุงศรีอยุธยา

สถานีการค้าฮอลันดา

กอ่นอื่นขอทำความเข้าใจว่า หมู่บ้านทั้งหมดนี้อยู่ทางตอนใต้ของเกาะเมืองอยุธยา ถ้าเริ่มจากสังเกตเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นแลนด์มาร์ค ตรงไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ทางเข้าสถานีการค้าฮอลันดาอยู่ในละแวกวัดพนัญเชิง อาจจะเป็นทางเข้าแบบลึกลับๆ หน่อย ถ้าหาไม่เจอะให้ลองถามคนแถวนั้น เพราะแม้แต่ป้ายบอกทางก็ยังพางงครับ เอาเป็นว่าถ้าเห็นอู่ต่อเรือไม้ขนาดเล็ก แสดงว่ามาถูกทาง

บอกก่อนว่า สถานีการค้าฮอลันดาหรืออาณานิคมชาวฮอลันดาในปัจจุบัน เหลือเพียงทรากฐานอาคารก่ออิฐเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ได้สร้างอาคารหลังใหม่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการแล้ว โดยเรื่องราวในอาคารนิทรรศการจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของชุมชนชาวฮอลันดา (จะเรียกเนเธอร์แลนด์, ดัตช์, หรือฮอลแลนด์ก็ได้นะ) ตัวอาคารหลังใหม่เป็นอาคารสองชั้น สีสันสวยสดงดงาม ตั้งอยู่รอมแม่น้ำเจ้าพระยา อากาศดีลมเย็นชื่นใจ

สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ประเทศเนเธอร์แลนด์ของชาวฮอลันดา เป็นแผ่นดินที่ตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 4 เมตร แต่ชาวฮอลันดาในอดีตกลับเป็นผู้กุมเกมการค้าทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ ในสมัยกรุงศรีอยุธยานะครับ บริษัทวีโอซีของฮอลันดามีเรือเดินทะเลมากถึง 5,000 ลำ มีลูกจ้างเฉพาะในเอเชียเกือบ 1 ล้านคน ทำการขนส่งสินค้ามากว่า 2.5 ล้านตันไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก สินค้าที่มีความสำคัญมากในเวลานั้นก็คือ ดีบุก ชาจีน เครื่องเทศ และอื่นๆ

ดังคำพังเพยโบราณของชาวฮอลันดาที่กล่าวไว้ว่า "สิ่งที่มาจากแดนไกลที่สุด ย่อมดีที่สุด"

 

กว่าที่ชาวฮอลันดาจะเข้ามาติดต่อการค้ากับกรุงศรีอยุธยาเป็นครั้งแรก ก็ลุเข้าสู่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแล้ว (ช้ากว่าพวกโปรตุเกสตั้งเยอะ) ทีแรกชาวฮอลันดาตั้งใจจะขอติดตามเรือสำเภาจากอยุธยาไปยังประเทศจีน หวังเปิดตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ด้วยความเป็นสังคมนานาชาติของอยุธยา ทำให้สมเด็จพระเอกาทศรถ โปรดฯ ให้พวกฮอลันดาตั้งสถานีการค้าแห่งแรกขึ้นที่กรุงศรีอยุธยาเสียก่อน (ปัจจุบันไม่ทราบว่าตั้งอยู่ตรงไหนนะครับ) ต่อมาในสมัยพระเจ้าปราสาททองได้พระราชทานที่ดินผืนใหญ่ให้กับบริษัทวีโอซี โปรดฯ ให้ก่อตั้งเป็นสถานีการค้าถาวร ตอบแทนที่ให้ความช่วยเหลือด้านการทหารเมื่อคราวเกิดข้อพิพาทกับรัฐปัตตานี

จำนวนผู้อาศัยในอาณานิคมฮอลันดาแห่งนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ ครับ แต่เป็นชุมชนที่มีสมาชิกมากถึง 1,500 คนเลยทีเดียว มีตลาดสำหรับค้าขายกันเองภายในชุมชนด้วย จึงกลายเป็นชุมชนใหญ่ทางตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา มีอาคารหลักของสถานีการค้า และมีที่พักของเจ้าหน้าที่ต่างๆ มีโกดังสินค้า ห้องเหล้า โรงครัว โรงตีเหล็ก คอกม้า เล้าสัตว์ และกระทั่งสุสาน

ในปัจจุบันนี้ หลงเหลือทรากอาคารสถานีการค้าฮอลันดาเพียงแห่งเดียว ที่ติดป้ายทองเหลืองบ่งบอกว่าเป็นที่ตั้งบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา

"อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย" สุภาษิตนี้ใช้ได้แต่ไหนแต่ไร นอกจากจะนำวิทยาการแปลกใหม่เข้าสู่สยามแล้ว ชาววีโอซียังมีบทบาทอย่างมากต่อราชสำนักกรุงศรีอยุธยา โดยเฉพาะในการจัดหาช่างฝีมือ เช่นช่างทอง หรือนำการแพทย์จากต่างประเทศเข้ามายังกรุงศรีฯ การขนส่งม้าหลายร้อยตัวที่พระมหากษัตริย์ทรงสั่งซื้อจากชวา รวมไปถึงกลุ่มพระสงฆ์ที่เดินทางไปฟื้นฟูพระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ต่างได้อาศัยเดินทางไปกับเรือของวีโอซีนี่เอง นอกจากนี้บริษัทฮอลันดายังให้ราชสำนักหรือขุนน้ำขุนนางได้ทดลองหยิบยืมอุปกรณ์ทันสมัยต่างๆ อีกด้วย

ประมาณปี พ.ศ. 2308 กองทัพพม่าเข้ายึดบางกอก ขยับเข้าชิดสถานีการค้าฮอลันดา นายสถานีในเวลานั้นตัดสินใจจัดการอพยพผู้คนไปสู่เมืองปัตตาเวีย กระทั่งหลังปี พ.ศ. 2310 ไปแล้ว จึงได้ทราบข่าวว่ากรุงศรีอยุธยาถูกเพลิงเผามอดไหม้ จนไม่อาจฟื้นคืนสภาพได้อีก

หมู่บ้านญี่ปุ่น

สำหรับหมู่บ้านญี่ปุ่น ต้องเดินทางจากวัดพนัญเชิงโดยเลาะแนวแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ จนเกือบถึงสะพานอโยธยาจะมีทางเข้าใหญ่โตบอกว่าเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น เลี้ยวเข้ามาซื้อบัตรเข้าชมได้เลย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก มีมุมสวยๆ เพิ่มให้เซลฟี่มากมาย มีสวนเซนให้นั่งเล่นเย็นใจ หมู่บ้านนี้อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน มาแล้วอย่าลืมนั่งคาเฟ่ สั่งมัทฉะลาเต้มาดื่มสักแก้ว ดื่มค์ชาเขียวที่ไหนจะเท่ากับดื่มที่หมู่บ้านญี่ปุ่น ชาเขียวอร่อยของแท้รับรองได้ ถ้าไม่อร่อยไม่รู้จะไปดื่มที่ไหนแล้วครับ

ชาวญี่ปุ่นเริ่มทำการค้ากับกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระมหาธรรมราชา (ก่อนสมัยพระนเรศวรมหาราช จึงมาก่อนชาวฮอลันดาหนึ่งรัชกาล) แต่เข้ามาก่อตั้งชุมชนครั้งแรกในสมัยพระนเรศวรเช่นเดียวกับชาวฮอลันดานี่เอง ในยุครุ่งเรืองมีชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านประมาณ 1,000-1,500 คนพอๆ กัน

เมื่อพระเจ้าปราสาททองขึ้นเป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา โปรดฯ ให้เจ้ากรมอาสาญี่ปุ่น และหัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่น คือ ยามาดะ นางามาซะ หรือ ออกญาเสนาภิมุข  ย้ายไปเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อปราบกบฏเมืองใต้ หลังจากนั้น พระเจ้าปราสาททองได้เผาทำลายหมู่บ้านญี่ปุ่นที่อยุธยา โดยชาวญี่ปุ่นได้อพยพไปก่อนแล้ว

นางามาซะ เป็นชาวเมืองนาโงย่า เกิดในสมัยเอโดะ เดินทางมายังไต้หวันกับเรือสำเภาญี่ปุ่น และเดินทางต่อมายังกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ได้เป็นเจ้ากรมอาสาญี่ปุ่น ศักดินาหนึ่งพัน มีทหารอาชีพในสังกัด 800 คน นอกจากนี้นางามาซะยังเป็นพ่อค้าคนกลาง ส่งสินค้าของกรุงศรีอยุธยาไปขายต่างประเทศ หลังจากได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ก็เสียชีวิตลงภายในปีนั้นเอง

ใครไปเที่ยวลพบุรีบ่อยครั้ง หรือชอบดูละคร "บุพเพสันนิวาส" คงคุ้นเคยชื่อนาย คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ ออกญาวิชชาเยนทร์ เสนาบดีกรมท่าสมัยพระนารายณ์ สามีของท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์ เดอ ปีมา ลูกครึ่งโปรตุเกส-ญี่ปุ่น ผู้ที่มีชื่อเสียงในเรื่องริเริ่มทำขนมหวานต่างๆ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ที่หมู่บ้านญี่ปุ่นก็ได้จัดแสดงนิทรรศการในส่วนนี้ไว้ด้วย เพราะถือว่าท้าวทองกีบม้าเป็นลูกหลานคนญี่ปุ่นในอยุธยาเช่นกันครับ

หมู่บ้านโปรตุเกส

สำหรับหมู่บ้านโปรตุเกส ต้องเดินทางตามแนวแม่น้ำลงไปอีกเล็กน้อย พอเจอะทางแยก เลี้ยวขวาข้ามสะพานอโยธยาไปอีกฝั่งได้เลย ถ้าลากเส้นจากฝั่งหมู่บ้านญี่ปุ่น ก็แทบจะอยู่ตรงข้ามกัน เพียงแต่มีแม่น้ำเจ้าพระยากั้นไว้เท่านั้น

ชาวโปรตุเกสเป็นชาวตะวันตกชาติแรกที่เข้ามาติดต่อกับกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เข้าเป็นทหารอาสาช่วยรบในศึกเชียงกราน ต่อมา พระไชยราชาธิราช พระราชทานที่ดินให้ตั้งชุมชนชาวโปรตุเกส โปรดฯ ให้ปฏิบัติศาสนกิจได้โดยเสรี กลายเป็นชุมชนชาวตะวันตกที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา มีชาวโปรตุเกสอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 คน เป็นทั้งทหารอาสา ช่างต่อเรือ ทำธุรกิจการค้า ส่วนใหญ่เป็นลูกผสมหลายเชื้อชาติ ไม่ใช่ชาวโปรตุเกสแท้

ใครมาเที่ยวหมู่บ้านโปรตุเกส คงเห็นอาคารโบสถ์นักบุญเปรโต คณะโดมินิกัน (เซนต์โดมินิค) หนึ่งในสามโบสถ์คริสต์ที่เคยตั้งอยู่ในชุมชนแห่งนี้ ที่พอเดินเข้ามาภายในไม่เห็นจะเหมือนโบสถ์คริสต์สักนิด แต่เหมือนสุสานฝังศพ เพราะขุดเจอโครงกระดูกไม่ต่ำกว่า 200 โครงขึ้นไป

ชาวโปรตุเกสอาศัยอยู่ในอยุธยาอย่างสงบสุข กระทั่งกองทัพพม่าบุกเข้าเผาทำลายหมู่บ้านชาวยุโรปต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือชุมชนโปรตุเกส ทหารพม่าเที่ยวรื้อทำลายโบสถ์คริสต์ ปล้มสะดมภ์ทรัพย์สิน หมู่บ้านชาวโปรตุเกสอยู่คู่กับกรุงศรีอยุธยาอย่างยาวนานถึง 227 ปี ต้องมาล่มสลายลงพร้อมกัน ชาวโปรตุเกสที่อพยพหลบหนีภัยสงครามครั้งนั้น ส่วนหนึ่งได้เข้าร่วมทัพกับพระเจ้าตากสิน มีส่วนร่วมในการบุกเข้าตีกองทัพพม่า จนสามารถสร้างบ้านแปงเมืองได้สำเร็จอีกครั้ง

บาทหลวงชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่งได้รวบรวมชาวโปรตุเกส เดินทางอพยพมาก่อร่างชุมชนใหม่ที่ฝั่งธน-กรุงเทพ กลายเป็นชุมชนโบสถ์ซางตาครูซ หรือชุมชนกุฎีจีน มีการทำขนมฝรั่งอร่อยๆ เรียกว่าขนมฝรั่งกุฎีจีน ภายหลังได้แตกออกไปสร้างโบสถ์กาลหว่าร์ หรือกาลวาเรโอ ที่ตลาดน้อยอีกแห่งหนึ่ง

เชื่อไหมครับว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ภาษาราชการที่ขุนนางกรุงศรีอยุธยาใช้ติดต่อกับชนชาติอื่น โดยเฉพาะฝรั่งยุโรป ยังใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นหลัก บาทหลวงที่เดินทางเข้ามาในอยุธยาได้เขียนเล่าไว้ว่า ขุนนางอยุธยาพูดภาษาโปรตุเกสได้ทุกคน จนแม้แต่คนฝรั่งเศสเองยังต้องฝึกการใช้ภาษาโปรตุเกส จึงจะสามารถสื่อสารกับขุนนางอยุธยาได้

การเข้ามาของโปรตุเกสก็เข้ามาพร้อมกับวิทยาการใหม่ๆ เช่นเดียวกับชนชาติอื่นๆ ทั้งการตั้งป้อมปราการ การสร้างกำแพงเมืองที่แข็งแรง ล้วนเป็นสิ่งที่กรุงศรีอยุธยาได้จากชาวโปรตุเกส แถมยังทิ้งร่องรอยทางวัฒนธรรม เช่น ภาษาและอาหารไว้อีกด้วย

เดินเที่ยวแค่ 3 หมู่บ้านก็เหนื่อยพอแรงแล้ว ด้วยความเป็นเมืองอินเตอร์เนชั่นแนลของกรุงศรีอยุธยา ในระดับที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งหนึ่งของโลก ทำให้มีคนต่างชาติต่างภาษาอีกหลายสิบชนชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยค้าขายทำมาหากิน เพราะโดยหลักฐานแล้ว ยังมีทั้งหมู่บ้านชาวอังกฤษ ชาวเวียดนาม ชาวจีน และชนชาติอื่นๆ เพียงแต่ไม่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับหมู่บ้านทั้ง 3 แห่งนี้ครับ.

แปะโพสต์อิทไว้

ท่องเที่ยวในอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา | ดูทั้งหมด

วัดไชยวัฒนาราม เที่ยวอยุธยาใส่ชุดไทยถ่ายรูปสวย เผยความลับกำเนิดพระเจ้าปราสาททอง

วัดราชบูรณะ เที่ยวอยุธยาเมืองเก่า ย้อนรอยเหตุโจรกรรมสมบัติเจ้าสามพระยา 92 ล้านบาท

เที่ยวอยุธยา เปิดตำนานเจดีย์นักเลง วัดสามปลื้ม แปลกแต่จริง โบราณสถานอยุธยาหายไปไหนนับร้อยแห่ง ?

ไหว้พระ 10 วัด อยุธยา ท่องเที่ยวทำบุญพร้อมเกร็ดประวัติศาสตร์สนุกๆ

ร้านอร่อยในอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา | ดูทั้งหมด

บ้านไม้ริมน้ำ ร้านอร่อยอยุธยา แป๊ะซะปลาช่อน ยำรวมมิตร วิวแม่น้ำเจ้าพระยา

Pine Cafe and Bed อร่อยอยุธยา เป็นคาเฟ่ด้วย เป็นที่พักด้วย แบบว่านอนค้างในคาเฟ่ยังได้

โบราณ ณ อยุธยา ร้านอาหารและคาเฟ่ย้อนยุค อร่อยอยุธยา หน้าพระปรางค์วัดราชบูรณะ

อร่อยอยุธยากับสภาแคมป์ คาเฟ่แนวใหม่รับลมกลางคืนกลางแจ้ง อยู่ข้างบึงพระรามกลางเมืองเก่า

อร่อยอยุธยาที่ อยุธยา รีทรีท ชื่นฉ่ำเย็นใจบรรยากาศตลาดน้ำกรุงเก่าแถววัดท่าการ้อง

อร่อยอยุธยากับก๊วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ตั้งชื่อสั้นๆ ง่ายๆ จริงใจ ขายอยู่ตลาดน้ำอโยธยา

ท่าน้ำวิว ร้านอร่อยอยุธยาริมฝั่งน้ำตรงข้ามวัดพุทไธสวรรค์ ชวนชิมยำหมูย่างวาซาบิ

3 ร้านอร่อยอยุธยารอบดึก พื่งพาได้ยามเที่ยงคืน สำหรับคนชอบเที่ยวผับ อิอิ

ฮวด ข้าวขาหมู อร่อยอยุธยา พลาดไม่ได้ ของดีประจำเมือง รับรองโดยหอการค้าจังหวัด

Kaffa ร้านน่ารัก เสิร์ฟอาหารสไตล์ยุโรป รองท้องตลาดเจ้าพรมหม ร้านอร่อยอยุธยา

ที่พักราคาถูกในอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา | ดูทั้งหมด

เดอะ พาร์ค อยุธยา รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่พักอยุธยา พักผ่อนท่ามกลางแมกไม้ริมบึงพระราม

บ้านวันเลิฟ ที่พักอยุธยาราคาประหยัดสุดๆ ใกล้วัดราชบูรณะ เดินไปเที่ยวยังได้

โรงแรมพร้อมสุข ที่พักอยุธยา ใกล้สะพานปรีดี หลายร้านอร่อย แหล่งรถเช่าหน้าสถานีรถไฟ

บ้านนายเอื้อน ที่พักอยุธยา ชมวิวพระปรางค์วัดราชบูรณะจากหน้าต่างห้องพัก

เกี่ยวกับเว็บไซต์

sookjai วันหยุด (sookjai.club) เพื่อนรู้ใจในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณ คลับสนุกสำหรับคนชอบเที่ยว
นโยบายโฆษณา
ไม่มีนโยบายเรียกเก็บค่าบริการหลังการเผยแพร่เนื้อหา หากไม่มีข้อตกลงก่อนการเผยแพร่เนื้อหานั้นๆ การอ้างเนื้อหาภายในเว็บไซต์เพื่อเรียกร้องค่าบริการหรือผลประโยชน์อื่นใด เป็นการกระทำที่ไม่ชอบ พบผู้ใดมีพฤติกรรมดังกล่าวแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที
สนับสนุน โดย สวัสดี ออนไลน์ สำนักพิมพ์
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดย สวัสดี ออนไลน์ สำนักพิมพ์ (saonbeta.com)
รับทำหนังสือ ปฏิทิน แผ่นพับ โบรชัว ฉลาก แพคเกจจิ้ง เว็บไซต์ ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ทุกประเภท
เปิดอ่านอีบุ๊คได้ฟรีที่ สวัสดี อีบุ๊ค สโตร์
ช่องทางติดต่อ
Sookjai วันหยุด
โทรศัพท์ 08 5395 9493 , 09 9738 4765
ไลน์ mike_h , @jxl0412a

Sookjai PCMres version 02 เผยแพร่ 20.06.2023
เว็บไซต์นี้ใช้กราฟิกจากเว็บไซต์ flaticon.com