
เจ๊เอ็งกระเพาะปลา กับ กุยช่ายลี้ป๋อเง็ก สองร้านอร่อยตลาดพลูเจ้าดัง ต้องแวะเวียนกลับมาตลาดเก่าแก่ฝั่งธนอีกครั้ง เพื่อชิมอาหารร้านอร่อยอีกรอบสองรอบตามประสา "Sookjai วันหยุด" ที่ "ไม่ชิมไม่ได้"
ตลาดพลูมีชาวจีนเข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ในยุคต้นรัตนโกสินทร์ถูกเรียกกันเล่นๆ ว่า "สำเพ็งฝั่งธน" เรื่อยมา เป็นแหล่งสั่งสมตำรับอาหารอร่อยมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะอาหารจีนๆ ยังมีกลุ่มบ้านเก่าในซอยเทอดไท 27 (ซอยบ้านคหบดีชื่น มัฆวิบูล) หรือข้ามถนนเทอดไทไปซอย 20 (ตรงข้ามกัน) ก็เป็นบ้านตึกแถวสมัยเดียวกัน ยาวเหยียดจนเกือบจะชนคลองบางหลวง เพราะถนนเทอดไทเพิ่งจะตัดเมื่อก่อนสงครามโลกนี้เอง แต่เดิมคงเป็นซอยเดียวกันครับ
เดินถ่ายรูปเล่นเซลฟี่ให้เย็นใจ แต่ร้อนแดดเมืองกรุงซะจริง จนต้องหลบเข้ามานั่งแอ้แต้ในร้านกุยช่ายติดแอร์เย็นเฉียบ ที่เปิดเพลงฝรั่งตามสมัยนิยม สั่งกุ่ยช่าย ขนมจีบ กับชาดำเย็นมาหม่ำให้หนำใจ ก่อนออกไปหาอาหารมื้อหลักรองท้องต่อ
"ลี้ป๋อเง้ก" ต้นตำรับกุยช่ายแป้งนุ่มตลาดพลู ไส้กุยช่ายมีกลิ่นหอม ออกเค็มนิดๆ จัดไป ลูกละ 10 บาทเท่านั้น ไม่แพงเลย เมื่อก่อนมีไส้เดียว เดี๋ยวนี้พัฒนาเพิ่มอีก 4 ไส้ มีไส้ผัก (กุยช่าย) หน่อไม้ มันแกว เผือก กะหล่ำปลี แล้วแต่จะเลือกรับประทาน
ขนมจีบหมู 5 ลูก 30 บาท ไม่แพงเลย อร่อยจริงอร่อยจัง ออกหวานนิดๆ ราดจิ๊กโฉ่วเพิ่มความอร่อย แนะนำเลย อย่าได้พลาด
ตามด้วยชาดำเย็น "ย่งฮะฮวด" อีกแก้ว เรียกว่าชื่นใจจริงๆ ด้วยราคาที่ไม่แพงแบบนี้ คัุ้มค่าตามประสาชาวเรา ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงรับจำนำเก่าแก่ของตลาดพลู กินเสร็จตังค์ไม่พอจ่าย ข้ามไปจำนำสร้อยแหวนนาฬิกาได้ (ฮา)
มาอีกร้าน หาของอร่อยเตะตาดีกว่า ร้านเจ๊เอ็งกระเพาะปลา รสชาติระดับคุณภาพ ตักใส่ปากคำแรกรู้เลยว่ากระเพาะปลาดี เขาเน้นกระเพาะปลาเต็มชามจริงๆ มีให้เลือกได้ด้วย ใส่น่องไก่หรือไข่นกกระทา อยากจะกินอะไรเลือกเอา เคี้ยวกระเพาะปลากรอบเบาเต็มปากเต็มคำ หมดชามไม่รู้ตัว ร้านนี้ตั้งอยู่ปากซอยเทอดไท 27 ตัวร้านอาจไม่ค่อยสะดุด แต่คนขายเตะตาแน่นอน เรียกได้ว่าคนสวยอีกคนของตลาดพลูเลยทีเดียว
เลือกแวะร้านนี้เพราะคนขายนี่เอง ฮา
ตลาดพลูยังมีอีกหลายร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย เช่น ขนมเบื้องสริญทิพย์ ก๊วยเตี๋ยวเนื้อ ข้าวหมูแดง น้ำแข็งใส ขนมหวานเจ้าดั้งเดิมของตลาดพลู และยังมีร้านลับๆ ซ่อนตัวตามตรอกซอกซอยอีกเยอะ ของอร่อยเต็มตลาดแบบนี้ ต้องมาลองสักครั้งครับ