แนะนำเนื้อหา ติดต่อ 085 395 9493 หรือ michaelleahai@gmail.com และ แอดไลน์
เที่ยวบ้านพิพิธภัณฑ์ เที่ยวกรุงเทพ ซอยศาลาธรรมสพน์ 3 ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบนึกถึงความหลังครั้งเก่า จะสมัยที่ยังเป็นเด็กน้อยหรือสมัยวัยรุ่นเอ๊าะๆ เคยนึกถึงปากกาหมึกซึมที่เคยใช้ นึกถึงแก้วน้ำพิมพ์ลาย กล่องผงซักฟอก หรือยี่ห้อยาสีฟันสมัยยังเป็นเด็ก และอยากจะเห็นของเหล่านั้นอีกสักครั้ง ก็ไม่ต้องไปไหนไกลครับ (หมายถึงถ้าอยู่ใน กทม อะนะ) เชิญมาที่ บ้านพิพิธภัณฑ์ ของ คุณเอนก นาวิกมูล นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง มาที่นี่เพียงแห่งเดียว อาจจะได้เจออดีตของตัวเองที่นี่ก็ได้นะครับ
ใช่ครับ คนเราก็ชอบนึกถึงอดีตด้วยกันทั้งนั้น เพราะอดีตนี่เองที่ช่วยบ่งบอกความเป็นมาของเรา
Sookjai วันหยุด บอกท่านผู้อ่านที่ขับรถมาเองไว้ก่อน ว่าเลี้ยวรถเข้ามาในซอยศาลาธรรมสพน์ 3 ได้เลย ไม่ต้องสนใจป้ายบอกทางตรงปากซอยที่ระบุว่าเป็นทางเข้า พิพิธภัณฑ์เด็ก เป็นเพราะเขตทวีวัฒนาเขาทำป้ายผิดครับ (ฮา) เอามาติดตั้งเรียบร้อยโดยไม่รู้เลยว่าพิพิธภัณฑ์เด็กเขาย้ายไปสร้างที่หลังจตุจักรตั้งนานแล้ว แถมเป็นพิพิธภัณฑ์ใหญ่โตกว่านี้ด้วย ส่วนในซอยศาลาธรรมสพน์ 3 คือบ้านพิพิธภัณฑ์ครับ
เปิด GPS เอาเอง ยังเชื่อได้มากกว่าป้ายบอกทางของหน่วยงานรัฐซะอีก แฮะ แฮะ
ค่าเข้าชมเพียง 40 บาทกับของเก่าประเภทข้าวของเครื่องใช้ในอดีตมากมายเป็นพะเรอเกวียน ที่ได้รับการบริจาคมาแทบทั้งหมดนะครับ จนสามารถดัดแปลงบ้านสามชั้นในซอยศาลาธรรมสพน์ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ แค่เข้ามา Sookjai วันหยุด ก็เจอปากกาหมึกซึมที่เคยใช้ตอนสมัยเป็นเด็กประถมศึกษาแล้ว แถมไม่ได้จัดแสดงอย่างเดียวนะครับ เขาจำหน่ายด้วยในราคาด้ามละ 80 บาท ปากกาหมึกซึมแบบนี้แหละครับที่ทำให้เสื้อนักเรียนขาวๆ เปื้อนหมึกน้ำเงินมาหลายตัวแล้ว เพราะต้องสูบหมึกเข้าปากกาเอง เขียนๆ ไปหมึกหมดก็ต้องเติมใหม่ เป็นที่สนุกสนานของเด็กๆ เลยครับ
ชั้นล่างเป็นร้านกาแฟเล็กๆ น่ารัก มีมุมจำหน่ายหนังสือแนวประวัติศาสตร์และวรรณกรรม ท่านที่ต้องการของที่ระลึกก็มีให้เลือกมากมายหลายประเภทครับ ทั้งเสื้อยืดหรือสมุดที่พิมพ์ปกด้วยภาพสิ่งพิมพ์ในอดีต มีให้เลือกจนจุใจเลยทีเดียว
เข้ามาแล้วทุกคนก็คงจะชอบการจัดนิทรรศการของทางพิพิธภัณฑ์นะครับ ที่เขาจัดข้าวของต่างๆ ให้เข้ากันโดยแบ่งประเภทเป็นร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะร้านของเล่นที่ชั้นล่างนี้ ยิ่งพาบุตรหลานมาด้วยก็คงพากันดูของเล่นเก่าจนสนุกสนานทั้งพ่อแม่ลูก เพราะดูจากภาพถ่ายของ Sookjai วันหยุด ก็คงจะเห็นว่ามีข้าวของจัดแสดงไว้เยอะมากๆ ซึ่งอาจจะมีสักชิ้นหนึ่งที่เราเคยเล่นเมื่อสมัยยังเป็นเด็กก็ได้
ดูลีลาการโฆษณาขายยาสูบยี่ห้อนกอินทรีของห้างอังกฤษอเมริกันในสมัยก่อนสิครับ "ต้องมีซองหนึ่งในกระเป๋าเสมอ" สงสัยสูบจนเป็นริดสีดวงจมูกไปเลยว่างั้น
ถ้าพูดจริงๆ ท่านผู้อ่านที่มาเที่ยวชมบ้านพิพิธภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นคนยุคไหนก็ตาม คงจะชื่นชอบข้าวของที่เรายังคุ้นเคยกันอยู่มากกว่า เช่นปี๊บขายลูกอมฮอลล์ (ถ้ายังจำได้ ตอนเป็นเด็กเดินไปร้านขายของชำหน้าปากซอย ต้องล้วงหยิบออกมาเอง 3 เม็ด ราคา 1 บาท ไม่ได้ใส่ซองขาย 10 บาท ในโมเดอร์นเทรดแบบสมัยนี้) หรือถ้วยที่ทำเป็นของแถมจากเครื่องดื่มยี่ห้อโอวัลตินในภาพ ประเภทพอเห็นแล้วต้องร้องออกมาว่า "เอ๊ะ เมื่อก่อนเขาเรียกแป้งโอวัลตินเหรอนี่" หรือ "อุ้ย สมัยก่อนโน้น ยาสีฟันดาร์ลี่เขาชื่อว่าดาร์กี้หรอกเรอะ" นั่นเป็นเพราะเรามีประสบการณ์ร่วมกับสิ่งของที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์นี้นะครับ
ที่เป็นไฮไลต์ก็คือการจำลองโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กๆ ไว้ในพิพิธภัณฑ์ด้วย อุตส่าห์ไปหาเก้าอี้โรงหนังไม้แบบพับได้มาตั้งหลายตัว เห็นโรงภาพยนตร์นี้ขึ้นป้ายฉายหนังเรื่องเรือนแพไว้ด้วย เขียนไว้บนกระดานว่าฉายวันละ 3 รอบ วันเสาร์อาทิตย์เพิ่มอีก 1 รอบ แต่ Sookjai วันหยุดไม่ได้รอชมภาพยนตร์เลยสิครับ
Sookjai วันหยุด เคยเขียนถึงตลาดพลูเอาไว้ ทั้งเรื่องเที่ยวเรื่องชิมอาหารอร่อยๆ แถมเขียนไว้ด้วยว่าชื่อเก่าของตลาดพลูคือบางยี่เรือ (หาอ่านได้ในเว็บไซต์ sookjai.club นี้แหละครับ เสิร์ชภายในเว็บไซต์ได้เลยว่า "ตลาดพลู") เมื่อมาเที่ยวบ้านพิพิธภัณฑ์ยังได้มาเจอะป้ายสมาคมชาวบางยี่เรือด้วย สังเกตดูดีๆ ครับ ป้ายสมาคมนี้มีทองคำเปลวแปะด้วย
บรรยากาศแบบแผงเทป แผงหนังสือ แผงนิตยสารหน้าร้านตึกแถวข้างทางที่สูญหายไปแล้ว กลายมาเป็นยุคสตีมมิ่งเพลงแบบ Joox หรือ spotify หรือมุมเก็บรวบรวมปกนิยายเก่าก็จัดไว้แบบพอได้บรรยากาศครับ ตามคอนเซปต์ของทางบ้านพิพิธภัณฑ์ที่บอกไว้ว่า "เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า"
นอกจากนี้ยังเที่ยวชมร้านตัดผมย้อนยุค โรงเรียนสมัยก่อน หรือที่ว่าการอำเภอสิงหนคร อย่าลืมแวะร้านขนมที่มีเครื่องบดน้ำแข็งใส แบบที่เราเคยไปนั่งรออยู่หน้าร้าน คนขายออกแรงหมุนเครื่องบดน้ำแข็ง ราดน้ำแดงเฮลบลูบอยล์ ตามด้วยนมข้นหวาน แค่นี้ก็อร่อยอย่าบอกใครไม่แพ้บิงซูในสมัยนี้เลย
สุดท้ายก่อนออกจากบ้านพิพิธภัณฑ์ ลงมานั่งร้านกาแฟชื่นใจ สั่งนมสดดื่มนิดนึง เขาเสิร์ฟพร้อมของแถมเป็นขนมปังกรอบสองชิ้นเล็กๆ ด้วย เป็นเพราะฝนเทลงมาโดยไม่บอกก่อนนี่เอง นั่งอยู่จนไฟฟ้าดับสองรอบฝนจึงซาไป สำหรับท่านที่มีของเก่าประเภทที่ตกทอดมาจากอดีต เป็นข้าวของเครื่องใช้แปลกตา ที่ไม่ใช่ของแพงมีราคา แต่อยากให้ผู้อื่นได้เห็นด้วย ลองติดต่อบ้านพิพิธภัณฑ์ดูเองครับ
TEP X OIIO ASIA TECHLAND 2023 ชวนสัมผัสชีวิตในโลกอนาคต ที่สยามพารากอน 25-28 พฤษภาคมนี้
อ่าน 137 คน
Hong Kong Noodle สูตรอาหารตำรับไทยจีน 30 ปี ขายอยู่แยกบางลำพู อร่อยบางลำพูของจริง
อ่าน 145 คน
เรือไฟฟ้า คลองผดุง เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เริ่มวันที่ 1 ก.ค. 2563
อ่าน 1902 คน
ข้าวซอยเสมอใจ ฟ้าฮ่าม อร่อยเชียงใหม่ ชิมข้าวซอยเจ้าเด็ด ยามหมอกควัน PM 2.5 ลงหนัก
อ่าน 131 คน
เที่ยวแปดริ้ว มาวัดหลวงพ่อโสธร ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ฉะเชิงเทรา ไข่ต้มเยอะเกินปุยมุ้ย
อ่าน 311 คน
ท่าเรือแดง เกสต์เฮาส์ ที่พักอยุธยาวิวแม่น้ำป่าสัก ตลาดหัวรอ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ไทย
อ่าน 1699 คน
สวัสดี ออนไลน์ สำนักพิมพ์ บอกต่อ...
เที่ยวบ้านพิพิธภัณฑ์ เที่ยวกรุงเทพ ซอยศาลาธรรมสพน์ 3 เจอปากกาหมึกซึมที่เคยใช้ตอนสมัยเป็นเด็กประถม ปากกาหมึกซึมแบบนี้แหละครับที่ทำให้เสื้อนักเรียนขาวๆ เปื้อนหมึกน้ำเงินมาหลายตัวแล้ว
*ไม่มีนโยบายเรียกรับเงินค่าโฆษณา พบผู้ใดมีพฤติกรรมดังกล่าว แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที
พื้นที่โฆษณาของ Google Adsense ประเทศไทย
อ่านกันเยอะมาก